Custom Search

Search This Blog

Tuesday, March 19, 2013

SIM ดีด 11.84% มี Upside จากโครงการ Tablet-ปี 57 MVNO ดันกำไรโตแรง

วันอังคารที่ 19 มีนาคม 2556 เวลา 10:28:15 น.
(ข้อมูลจากข่าวหุ้นธุรกิจ)



ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้น บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หรือ SIM ณ เวลา 10.20 น. บวก 0.36 บาท หรือ 11.84% มาที่ 3.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 150.45 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.52% ทั้งนี้ ราคาหุ้น SIM ดีดตัวขึ้นแรงจากระดับราคา 2.62 บาท ในวันที่ 11 มี.ค. มาแตะที่ระดับราคา 3.40 บาท ในวันนี้ (RSI=82.36) ทั้งนี้ ราคาหุ้นเริ่มเข้าเขตซื้อมากเกินไป จากข้อมูล www.settrade.com ระบุว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 3 แห่ง แนะนำ “ซื้อ” SIM โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 3.55 บาท โดยปัจจุบันราคาหุ้น SIM เทรดที่ P/E 78.91 เท่า และ P/BV 5.21 เท่า
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (19 มี.ค.) ว่า แนะนำ “ทยอยสะสม” หุ้น SIM โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 4.60 บาท เนื่องจากเราเชื่อว่าราคาหุ้นมีแนวโน้ม Outperform ตลาดได้ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า จากธุรกิจที่กลับเข้าสู่ Up Cycle อีกครั้ง จากการผลัดใบเข้าสู่เทคโนโลยี 3G ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเครื่องโทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมากตั้งแต่ ปี 56 เป็นต้นไป และอัตรากำไร (Gross Margin) ของโทรศัพท์ประเภท Smart Phone สูงกว่า Feature Phone ถึงเกือบเท่าตัว จะเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจในปีนี้ โดยเราคาดว่ายอดขาย smart Phone ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 74% ของยอดขายทั้งหมด จะเติบโตถึง 416% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 2.90 ล้านเครื่องในปี 56
ขณะที่ธุรกิจ Content เช่น BUG1113, BUG 1900, I-sport ยังมีทิศทางเติบโต เนื่องจากได้ประโยชน์จากความสามารถในการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็วขึ้นจาก เทคโนโลยี 3G และธุรกิจ MVNO คาดว่าจะเข้าสู่จุดคุ้มทุนได้ในครึ่งหลังปี 56 และเริ่มสร้างกำไรในปี 57 หลังโครงข่าย 3G ของ TOT เฟส 1 จะเสร็จสิ้นในไตรมาส 1/56 และพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้นรออยู่จากคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/56 จะเติบโตสูงถึง 592% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 113% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 170 ล้านบาท และกำไรไตรมาส 1/56 เพียงไตรมาสเดียวจะเท่ากับกำไรปี 55 ทั้งปีที่ 165 ล้านบาท และจะเห็นการไต่ระดับขึ้นของกำไรจากไตรมาสก่อนหน้า ไปถึงไตรมาส 4/56 และคาดว่าจะเป็น 1 ในบริษัท ที่เข้าร่วมประมูลโครงการ Tablet จำนวน 1.8 ล้านเครื่อง ในเดือน เม.ย. 56 และเป็น Upside Risk ที่ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ
นอกจากนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 56 จะเติบโตสูงถึง 260% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 597 ล้านบาท และมีอัตรากำไรเติบโตเฉลี่ยในช่วง 3 ปีข้างหน้า (CAGR) สูงถึง 76% ต่อปี จึงเริ่มต้นคำแนะนำด้วย “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 4.60 ล้านบาท และหากชนะงาน Tablet จะได้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 5.00 – 5.20 บาท
ด้าน บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (19 มี.ค.) ว่า นอกจากปัจจัยหนุนเดิมอย่างการเซ็นสัญญา MVNO ฉบับใหม่กับ TOT ที่จะมีความชัดเจนใน เม.ย.56 แล้ว ประเด็นเก็งกำไรใหม่จะอยู่ที่โครงการแท็บเล็ตเฟส 2 มูลค่า 3.8 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน เม.ย.56 เช่นกัน ซึ่งถ้า SIM ได้รับงานในดีลนี้คาดว่าจะส่งให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากเดิม 11% และช่วยเพิ่มมูลค่าเหมาะสมจากเดิม 2.85 บาทเป็น 3.30 บาท (P/E 26 เท่า)
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 คาดว่ากำไรสุทธิของ SIM จะอยู่ที่ 160 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 92% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 500% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”