วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556 เวลา 16:24:11 น.
(ข้อมูลจากข่าวหุ้นธุรกิจ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้หุ้นกลุ่มขนส่งปรับตัวขึ้นคึกคัก
และมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น โดยเฉพาะหุ้นขนส่งทางบกและทางอากาศโดย
ราคาหุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ล่าสุด ณ
เวลา 16.01 น. อยู่ที่ 9.45 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 3.85% มูลค่าการซื้อขาย
2,816.49 ล้านบาท ส่วนบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL
ปรับตัวลดลง 2.67%
ขณะที่หุ้นขนส่งทางอากาศ นำโดยหุ้นบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ
THAI อยู่ที่ 28.00 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 6.67% มูลค่าการซื้อขาย 1,515.48
ล้านบาท บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ 7.60
บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.11% ส่วนบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ
AOT ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง วันนี้บวก 0.41%
ด้านขนส่งทางเรือ นำโดยบริษัท จุฑานาวี จำกัด (มหาชน) หรือ JUTHA บวก
2.13% บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ทรงตัวที่
17.80 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL
ลดลง 2.06%
ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคของ BTS เข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (RSI=81.25)
ขณะที่ THAI และ AAV เริ่มเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (RSI=73.27 และ 72.90
ตามลำดับ) ส่วน AOT JUTHA เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่ TTA
ค่อนข้างทรงตัว
ส่วนข้อมูลจาก www.settrade.com ระบุว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จำนวน 8
แห่ง แนะนำ “ซื้อ” THAI และแนะนำ “ขาย” 2 แห่ง อีก 1 แห่ง แนะนำ “ถือ”
โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 28.53 บาท ส่วน AAV แนะนำ “ซื้อ” จำนวน 2 แห่ง
แนะนำ “ขาย” จำนวน 4 แห่ง และแนะนำ “ถือ” จำนวน 3 แห่ง
ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 6.39 บาท ด้าน BTS แนะนำ “ซื้อ” 3 แห่ง
โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 10.83 บาท ขณะที่แนะนำ “ซื้อ” AOT จำนวน 6
แห่ง แนะนำ “ขาย” 5 แห่ง และแนะนำ “ถือ” จำนวน 1 แห่ง
โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 116.38 บาท
บล.ไทยพาณิชย์ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 มี.ค.) ว่า เราชอบ BTS เพราะ
1) กำไรสุทธิไตรมาส 1 ปีบัญชี 2557 (เม.ย.-มิ.ย. 56)
มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกำไรพิเศษจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้กับกองทุน
รวมโครงสร้างพื้นฐานและกำไรจากการดำเนินธุรกิจปกติที่เพิ่มขึ้นและ 2)
แนวโน้มที่บริษัทจะประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษ (จะประกาศในเดือน มิ.ย. 56)
จากเงินสดและกำไรที่คาดว่าจะได้รับจากการขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิให้กับกอง
ทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้เราก็ชอบ THAI เพราะ: 1) THAI เป็นหุ้น laggard play
มากที่สุดในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว โดยในช่วง 12
เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นTHAI ปรับขึ้นมาเพียง 5%
เทียบกับหุ้นขนส่งทางอากาศอื่นๆ (AOT +122% และ AAV +97%)
หุ้นโรงแรม(CENTEL +250% ERW +123% MINT +118%) และ SET (+36%); 2) THAI
เป็นหนึ่งในหุ้นสายการบินที่มีราคาถูกสุดเมื่อเทียบกับหุ้นสายการบินอื่นๆใน
ตลาดภูมิภาค โดยเทรดที่ PBV ปี 2556 ระดับ 0.7 เท่า
(เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.2 เท่า) และ EV/EBITDA ปี 2556 ระดับ 7
เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 8 เท่า); และ3)
ปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น ได้แก่ ช่วง high season
ของธุรกิจในไตรมาส 1/56 และการจดทะเบียนนกแอร์ในตลาดฯ
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 มี.ค.) ดังนี้ THAI
(เป้า Consensus 28.4 บาท) เย็นวันศุกร์ THAI รายงาน Cabin factor เดือน
ก.พ.56 เท่ากับ 80.4% เพิ่มขึ้นเทียบกับเดือน ก.พ. 55 ที่ 79%
เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินของ THAI ไตรมาส 1 จะยังเด่นเพราะเป็น High
season และไม่มีค่าใช้จ่ายพนักงานจำนวนมากเช่นในไตรมาส 4/55