วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2556 เวลา 11:34:47 น.
(ข้อมูลจากข่าวหุ้นธุรกิจ)
ผู้สื่อข่าวรายงานราคาหุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ณ เวลา 11.29 น. บวก 0.90 บาท หรือ 3.73% มาที่ 25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 92.65 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 1.17% ทั้งนี้ ราคาหุ้น MINT ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (7 มิ.ย.) ที่ระดับราคา 24.10 บาท มาแตะที่ระดับราคา 25 บาท ในวันนี้ (RSI=47.61) โดยก่อนหน้านี้ราคาหุ้นได้อ่อนตัวลงตามตลาดรวม จากข้อมูล www.settrade.com ระบุว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) 8 แห่ง แนะนำ “ซื้อ” MINT จำนวน 2 แห่ง แนะนำ “ถือ” และอีก 1 แห่ง แนะนำ “ขาย” โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 27.71 บาท ซึ่งปัจจุบันราคาหุ้น MONT เทรดที่ P/E 27.18 เท่า และ P/BV 4.30 เท่า
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (10 มิ.ย.) ว่า การลงทุนเน้น Follow เป็นหลัก (ให้น้ำหนักกับกลยุทธ์แบบ Contarian น้อยเนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ว่า SET อาจยังไม่สิ้นสุดการพักฐาน) ทั้งนี้การรีบาวด์ที่ไม่ผ่าน 1550 จุดควรขาย/ลดพอร์ตตาม โดยเฉพาะพอร์ตที่มีเงินสดเหลืออยู่น้อย เพราะมีโอกาสที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงแบบมีนัยสำคัญอีกรอบ แต่ถ้าผ่าน 1550 ขึ้นไปได้ให้เลือกซื้อ/ถือต่อเพื่อลุ้นแนวต้านต่อไปที่ 1580-1600, 1620-1630 จุด (ช่วงนี้ต้องดูและปรับกลยุทธ์เป็น Step ไป) หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ ได้แก่ MINT (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 32 บาท) และ THCOM (แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 42 บาท)
ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MINT โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 32 บาท เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/56 จะเติบโตแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลจากภาคท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ในไตรมาส 1/56 ธุรกิจโรงแรมที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง ที่คิดเป็น 40% ของรายได้ธุรกิจนี้ทั้งหมดนั้นเติบโตสูงถึง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีโมเมนตัมที่ดีต่อ ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ช่วง Low season ของภาคท่องเที่ยว แต่ผู้บริหารเชื่อว่าธุรกิจโรงแรมในปีนี้จะขยายตัวได้ดีเป็นเลขสองหลัก ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารและธุรกิจจัดจำหน่ายก็เติบโตอย่างน่าประทับใจ โดยธุรกิจ QSR ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น คาดว่าเครือข่าย QSR จะเติบโตได้ราวปีละ 8-10% ซึ่งทำให้ยอดขายสูงขึ้น และอัตรากำไรเพิ่มขึ้นจากประหยัดจากการขยายขนาด (Economy of scale) ธุรกิจอาหารในประเทศจีนมีแนวโน้มว่าจะพลิกจากขาดทุนเป็นคุ้มทุน/กำไรเล็ก น้อยได้ในปี 56
ส่วนยอดขายสมาชิก Anantara Vacation Club (AVC) เพิ่มสูงอย่างมาก (+42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในไตรมาส 1/56) มีส่วนผลักดันการยอดขายอสังหาริมทรัพย์ยังมีความแข็งแกร่ง แนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่อง แผนการเปิดธุรกิจโรงแรมเพิ่มเติมทั้งที่บริษัทลงทุนเอง 2 แห่ง ผนวกกับที่บริษัทได้รับว่าจ้างบริหารอีก 6 แห่งภายในสิ้นปี 56 หลังจากที่ได้เข้าซื้อกิจการโรงแรม 2 แห่ง (ในเวียดนาม) มาบริหารเอง และโรงแรมใหม่ที่ได้รับการว่าจ้างบริหารอีก 1 แห่ง ในไตรมาส 1/56